ตลาด
บัญชี
แพลตฟอร์ม
นักลงทุน
โปรแกรมพันธมิตร
สถาบัน
โปรแกรมความภักดี
เครื่องมือ
เขียนโดย Itsariya Doungnet
อัปเดตแล้ว 7 เมษายน 2025
การเทรด Forex คืออะไร ? หากคุณมีความสนใจเรื่องการลงทุน ซึ่งนอกจากหุ้นแล้ว หลายคนก็น่าจะเคยได้ยิน การเทรดคู่เงิน กันมาบ้าง ซึ่ง Forex เป็นชื่อเรียกของ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่คุณสามารถทำกำไรได้จากการเทรดคู่เงิน และ ก่อนเทรดต้องรู้อะไรบ้าง เทรด Forex ควรเริ่มต้นยังไง เราได้รวบรวมคำตอบที่ มือใหม่จำเป็นต้องรู้ มาให้คุณแล้วในบทความนี้
การเทรด Forex คืออะไร? เป็นการซื้อขายสกุลเงินในตลาดฟอเร็กซ์ นักเทรดทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างคู่เงิน
แพลตฟอร์มเทรด Forex ที่เราใช้คือ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ทั้งสองแพลตฟอร์มมีเครื่องมือการวิเคราะห์และการเทรดที่ครบครัน
การวิเคราะห์และการบริหารความเสี่ยง ใช้ร่วมกับ การวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน เพื่อตั้งค่า Stop Loss, Take Profit และการคำนวณ Lot Size
ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
การเทรด Forex เป็นการ ซื้อขายสกุลเงิน ที่มีสภาพคล่องที่สุดในโลก เช่น การซื้อ EUR/USD หรือ GBP/AUD ที่คุณสามารถ ทำกำไรได้จาก อัตราการแลกเปลี่ยนสกุลเงินในตลาด ตลาดฟอเร็กซ์ มีความผันผวนมาก เพราะมีผลกระทบต่อ เศรษฐกิจโลก และ ข่าวการเมือง ก็ส่งผลการเขึ้นลงของสกุลเงินของแต่ละประเทศ
ประโยชน์การเทรด Forex ที่ตอบโจทย์นักลงทุน ได้แก่:
ตลาด Forex มีสภาพคล่องสูงสุดในโลก
นักลงทุนงบน้อย ก็เข้าร่วมทำกำไรได้ด้วย เลเวอเรจ
นักลงทุนมีโอกาสทำกำไรได้ง่าย
ตลาด Forex เปิด 24 ชั่วโมง ตลอด 5 วันต่อสัปดาห์
การเทรด Forex คืออะไร เล่นยังไง สำหรับแพลตฟอร์ม เทรด Forex ที่คุณสามารถเลือกใช้ ได้แก่ MetaTrader 4 (MT4) และ MetaTrader 5 (MT5) ที่มาพร้อมกับฟีเจอร์ครบครัน หากคุณสงสัยความแตกต่าง ระหว่าง 2 ตัวเลือกนี้ อ่านต่อเลย
MetaTrader 4 (MT4): แพลตฟอร์มนี้ เหมาะสำหรับนักเทรดที่เน้นการเทรดระยะสั้น (Scalping) และการวิเคราะห์ทางเทคนิค มีเครื่องมือพื้นฐานครบถ้วน เช่น การวิเคราะห์กราฟและการตั้งคำสั่งอัตโนมัติ
MetaTrader 5 (MT5): แพลตฟอร์มเทรดที่พัฒนาจาก MT4 มีฟีเจอร์เพิ่มขึ้น เช่น การรองรับการเทรดสินทรัพย์อื่นๆ นอกจาก Forex และเครื่องมือในการวิเคราะห์ที่หลากหลายกว่า รวมถึงการแสดงกราฟที่มากกว่า 21 แบบ
การเลือก รูปแบบการเทรด Forex ที่เหมาะสม เป็นสิ่งสำคัญสำหรับ ผู้เทรดอย่างมาก เพื่อให้คุณสามารถ จัดการกับความเสี่ยง และ ทำกำไรได้อย่าง มีประสิทธิภาพ รูปแบบการเทรดหลักๆ ได้แก่ การเทรดแบบ Scalping, การเทรดแบบ Day Trading, การเทรดแบบ Swing Trading และ การเทรดแบบ Position Trading แต่ละรูปแบบ ก็ขึ้นอยู่กับเป้าหมายของคุณ
การเทรดแบบ Scalping คือ การเทรดในช่วงระยะเวลาสั้นๆ มีเปิดและปิดตำแหน่งภายในไม่กี่นาที ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาอย่างรวดเร็ว ผู้เทรดมักเปิดตำแหน่งหลายครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ พร้อมกับใช้เลเวอเรจสูงเพื่อเพิ่มผลกำไร
การเทรดแบบ Day Trading คือ การเปิดและปิดตำแหน่งภายในหนึ่งวัน มีเป้าหมายทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นระหว่างวัน ผู้เทรดจะไม่เปิดตำแหน่งซื้อข้ามคืนและจะปิดทุกตำแหน่งก่อนตลาดปิด การเทรดแบบนี้ช่วยลดความเสี่ยงจากการค้างตำแหน่งข้ามคืน
การเทรดแบบ Swing Trading เป็นการเทรดที่เปิดตำแหน่งในระยะเวลาหลายวันหรือหลายสัปดาห์ มีเป้าหมายทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาปานกลาง ผู้เทรดจะถือครองตำแหน่งในระยะเวลานานกว่าการเทรดแบบ Day Trading แต่ไม่ถึงขั้นถือข้ามเดือน ข้อดีของการเทรดแบบนี้คือ ไม่ต้องติดตามตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศตลอดเวลา
การเทรดแบบ Position Trading คือ การเทรดระยะยาว ผู้เทรดมักเปิดตำแหน่งไว้เป็นสัปดาห์หรือหลายเดือน เป็นรูปแบบการทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาที่ใหญ่ขึ้นในระยะยาว ผู้เทรดจะไม่สนใจการเคลื่อนไหวของราคาระยะสั้นและมักใช้การวิเคราะห์พื้นฐานในการตัดสินใจ
สำหรับผู้ที่สนใจ เทรด Forex ควรเริ่มต้นยังไง ก็สามารถอ่านคู่มือนี้ได้เลย นักเทรดมือใหม่จำเป็นต้องเข้าใจการวิเคราะห์ Forex, เครื่องมือต่างๆ และ รวมถึง วิธีการอ่านสกุลเงิน เพื่อเพิ่มความมั่นใจในการเทรด รวมการบริหารความเสี่ยงที่คุณห้ามมองข้าม!
ตลาด Forex มีคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ แบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก คือ คู่สกุลเงินหลัก (Major Pairs) และ คู่สกุลเงินรอง (Minor Pairs) ซึ่งการเลือกคู่สกุลเงินนั้นพิจารณาจาก ความผันผวน และ ความเข้าใจในเศรษฐกิจของสกุลเงินประเทศนั้นๆ เพื่อลดความเสี่ยง
คู่สกุลเงินหลัก (Major Pairs): เป็นคู่สกุลเงินที่มีการเทรดมากที่สุด เช่น EUR/USD, GBP/USD, USD/JPY มีสภาพคล่องสูงและสเปรดต่ำ
คู่สกุลเงินรอง (Minor Pairs): คือคู่สกุลเงินที่มีการเทรดน้อยกว่า เช่น EUR/GBP, AUD/JPY สเปรดกว้างกว่าและอาจมีความผันผวนสูงกว่า
ตัวอย่างการอ่านคู่สกุลเงิน EUR/USD:
Base Currency: สกุลเงินแรก (เช่น EUR ใน EUR/USD)
Quote Currency: สกุลเงินที่สอง (เช่น USD ใน EUR/USD)
การวิเคราะห์ตลาดฟอเร็กซ์ จะมีด้วยกัน 2 รูปแบบ คือ การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis) และ การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis) ซึ่งการใช้ทั้ง 2 เทคนิคนี้ร่วมกัน ก็จะยิ่งช่วยให้คุณไม่พลาดการตัดสินใจ และเพิ่มความแม่นยำมากขึ้น
การวิเคราะห์ทางเทคนิค (Technical Analysis): เป็นการวิเคราะห์กราฟด้วยเครื่องมือ เช่น Trendlines และ Indicators เพื่อประเมินทิศทางตลาด
การวิเคราะห์ปัจจัยพื้นฐาน (Fundamental Analysis): การศึกษาข่าวสารทางเศรษฐกิจ เช่น ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI), การประกาศอัตราดอกเบี้ย ที่มีผลกระทบต่อสกุลเงิน
เลเวอเรจ (Leverage) คือ เครื่องมือที่ช่วยให้ผู้เทรดสามารถควบคุมการลงทุนที่มีมูลค่าสูงขึ้น ด้วยการใช้เงินทุนที่ต่ำกว่าบัญชีเทรดจริง เช่น หากคุณเลือกใช้เลเวอเรจ 1:100 หมายความว่า หากคุณมีเงินในบัญชี 1,000 บาท ก็สามารถเทรดมูลค่าได้ถึง 100,000 บาท หรือ 100 เท่าของเงินฝากในบัญชีคุณ
การจัดการความเสี่ยง หรือ Risk Management ในการเทรด Forex เป็นสิ่งที่สำคัญอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็น การตั้ง Stop Loss, การควบคุม Lot Size หรือจะเป็น การเลือกอัตราส่วน Risk-to-Reward ที่เหมาะสม รับรองได้เลยว่า
หากคุณเข้าใจการจัดการความเสี่ง เทรด Forex ให้ได้วันละ 1000 บาท ก็ไม่ยากแน่นอน เรามาดูกันว่า แต่ละแบบแตกต่างกันอย่างไร
Stop Loss (SL): คำสั่งที่ใช้จำกัดขาดทุน เมื่อราคาถึงจุดที่ตั้งไว้ ระบบจะปิดการเทรดโดยอัตโนมัติ
Take Profit (TP): คำสั่งที่ใช้รับผลกำไร เมื่อราคาถึงจุดที่ตั้งไว้ ระบบจะปิดการเทรดและรับกำไรทันที
Lot Size ไม่ควรเกิน 1-2% ของเงินทุนในแต่ละเทรด คำนวณตาม Stop Loss ที่ตั้งไว้
Risk-to-Reward ratio คือ อัตราส่วนระหว่างความเสี่ยง (Stop Loss) และผลตอบแทน (Take Profit) เช่น 1:3 ก็หมายความว่า เสี่ยง 1 หน่วยเพื่อทำกำไร 3 หน่วย
การเทรด Forex เป็นตลาดที่มีความผันผวนมาก ซึ่งนี่ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย แต่แน่นอนว่าไม่ประมาณเข้าเทรดโดยที่ไม่มีการศึกษาอย่างดีมาก่อน เพราะอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงมากกว่าทำกำไร ซึ่งเราก็ได้รวบรวมข้อดีข้อเสียมาให้คุณแล้วที่นี่ เพื่อช่วยให้คุณตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
ข้อดี
ข้อเสีย
ตลาด Forex มีสภาพคล่องสูง
การคาดการณ์ยาก
เปิดตลอด 24 ชั่วโมง 5 วันทำการ
ความผันผวนสูง
สามารถใช้เลเวอเรจได้สูง
เริ่มต้นการเทรดได้ด้วยเงินทุนที่ไม่สูงมาก
สรุป การเทรด Forex คืออะไร? คู่มือฉบับมือใหม่ ที่เราได้อธิบายมาให้ นักเทรดมือใหม่ ได้ทำความรู้จักกับตลาด Forex ที่เป็นตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ ที่คุณสามารถเข้าเทรดได้ด้วยเงินทุนไม่กี่บาทเท่านั้น และยังมีโอกาสทำกำไรได้สูงด้วยเลเวอเรจ แต่ละรูปแบบการเทรด ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของนักเทรด
ตลาด Forex เปิดให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง จันทร์ - ศุกร์ ทำให้คุณสามารถเข้าร่วมได้สะดวกสบาย แน่นอนว่า Forex ผันผวนง่าย การเคลื่อนไหวราคาจะขึ้นอยู่กับสถานการณ์เศรษฐกิจ และ การเมืองแต่ละประเทศ เพราะฉะนั้นแล้วห้ามเมินเรื่องการบริหารความเสี่ยงเด็ดขาด
เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย
การเริ่มต้นเทรด Forex ควรเริ่มจากการศึกษาเบื้องต้นเกี่ยวกับตลาด การเลือกแพลตฟอร์มเทรด, ทำความเข้าใจการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพื้นฐาน, และการฝึกฝนด้วยบัญชีทดลอง ก่อนเริ่มเทรดด้วยเงินจริง เพื่อเพิ่มความมั่นใจและลดความเสี่ยง
การเริ่มต้น เทรด Forex กับ XS สามารถเริ่มต้นได้ด้วยเงินทุนต่ำสุดที่ 300 บาท ขึ้นไป สามารถเลือกเปิดบัญชีได้ตามประเภทที่เหมาะสมกับงบประมาณและรูปแบบการเทรดของคุณ
คุณสามารถรวยจากการ เทรด Forex ได้จริง แต่ทั้งนี้แล้วก็อาศัยการฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ และการพัฒนากลยุทธ์ที่เหมาะกับการเทรดของตัวเอง
ได้ค่ะ เมื่อคุณมีการเทรดอย่างสม่ำเสมอ และเริ่มทำกำไรได้สม่ำเสมอมากขึ้น ก็สามารถเลือกการเทรดเป็นอาชีพหลักได้เลย แต่แน่นอนว่าจะต้องมีการบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมด้วย
คุณสามารถเรียน Forex ได้ผ่าน บทความ XS ของเรา ที่เรานำเสนอกลยุทธ์และความรู้ที่เป็นประโยชน์มากมาย หรือจะเป็นการเรียนจากการฝึกฝนบัญชีทดลองจนเกิดความชำนาญ
SEO Content Writer
อิสสริยา ดวงเนตร เป็นนักเขียนคอนเท้นต์ SEO ภาษาไทยและภาษาอังกฤษ เชี่ยวชาญด้านการให้ความรู้ เรื่องตลาดเทรด และ การลงทุน เน้นสไตล์การเขียนที่อ่านง่าย เข้าใจง่าย และเนื้อหาความรู้จัดเต็ม พร้อมกับการผสมผสานเทคนิค SEO ที่ช่วยให้ผู้อ่านค้นหาบทความได้ง่าย อย่าลืมติดตามกันนะคะ
เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง