ฟอเร็กซ์

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์คืออะไร? คู่มือฟอเร็กซ์ฉบับสมบูรณ์

โดย โดย โดย XS Editorial Team

21 มิถุนายน 2024

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์แสดงถึงสองสกุลเงินที่มีการซื้อขายกันเมื่อทำการซื้อขายสกุลเงินคุณจะซื้อคู่สกุลเงินหนึ่งและขายอีกคู่สกุลเงินหนึ่งไปพร้อม ๆ กัน ดังนั้นคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์จึงบ่งบอกว่าสกุลเงินใดที่คุณกำลังซื้อและขาย

สาระสำคัญ

  • การซื้อขายฟอเร็กซ์เกี่ยวข้องกับการซื้อสกุลเงินหนึ่งและขายอีกสกุลเงินหนึ่งเพื่อทำกำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน
  • คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ประกอบด้วยสกุลเงินหลักและสกุลเงินอ้างอิงซึ่งแสดงอัตราแลกเปลี่ยนระหว่างสกุลเงินทั้งสอง
  • คู่สกุลเงินมีสามประเภท: คู่สกุลเงินหลักได้แก่ USD คู่สกุลเงินรองเป็นคู่ที่ไม่รวม USD และคู่สกุลเงินแปลกใหม่ที่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินในตลาดเกิดใหม่

การซื้อขายสกุลเงินฟอเร็กซ์คืออะไร?

การเทรดสกุลเงินหรือเรียกอีกอย่างว่าฟอเร็กซ์คือตลาดซื้อขายแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศ (foreign exchange) ซึ่งเกี่ยวข้องกับการซื้อและขายสกุลเงินต่างๆ เพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่าสกุลเงินในตลาดโลก 

โดยทั่วไปจะดำเนินการผ่านโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ ซึ่งทำหน้าที่เป็นคนกลางระหว่างคุณ เทรดเดอร์ และตลาดฟอเร็กซ์ นอกจากนี้ ตลาดฟอเร็กซ์ ยังเป็นตลาดการเงินที่ใหญ่ที่สุดและมีสภาพคล่องสูงที่สุดในโลก เปิดให้บริการ 24 ชั่วโมงทุกวัน ยกเว้นวันหยุดสุดสัปดาห์และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ดังนั้นคุณจึงจำเป็นต้องมีคนกลางที่เป็นผู้เชี่ยวชาญ

แต่ว่าคุณจะทำกำไรจากการเทรดคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ได้อย่างไร? สำหรับแต่ละคู่สกุลเงินจะมีอัตราแลกเปลี่ยนที่แตกต่างไปจากเดิม

ตัวอย่างเช่น อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันจากดอลลาร์สหรัฐเป็นยูโรคือ 0.92 โดยทั่วไปมักเขียนเป็นดังนี้ USD/EUR = 0.92 ซึ่งหมายความว่า 1 ดอลลาร์สหรัฐ (USD) จะเท่ากับ 0.92 ยูโร (EUR) ดังนั้นหากคุณมี 100 ดอลลาร์สหรัฐ คุณจะได้รับ 92 ยูโร

อัตราแลกเปลี่ยนนี้มีความผันผวนตามปัจจัยหลายประการ เช่น ความไม่แน่นอนทางการเมือง ผลการดำเนินงานทางเศรษฐกิจของประเทศและสภาพคล่องในตลาดเป็นต้น ดังนั้นคุณจึงเดิมพันกับความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนนี้เพื่อทำกำไร

การทำความเข้าใจในคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์

ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น คู่สกุลเงินโดยทั่วไปมักจะเขียนเป็น USD/EUR = 0.92 ดังนั้นเรามาเริ่มทำความเข้าใจเกี่ยวกับสกุลเงินในรายละเอียดด้านล่างนี้กันเถอะ 

ในแต่ละคู่สกุลเงินจะแทนด้วยตัวอักษรสามตัวซึ่งเปรียบเสมือนรหัสที่ใช้แทนแต่ละคู่สกุลเงิน โดยตัวอักษรสองตัวแรก หมายถึงประเทศและตัวอักษรตัวสุดท้ายจะหมายถึงสกุลเงิน ตัวอย่างเช่น สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) โดยจะเขียนตัวย่อเป็น "US" หมายถึงสหรัฐอเมริกา และ "D" หมายถึงดอลลาร์

คำศัพท์นี้อิงตามระบบรหัสสกุลเงินสากลขององค์การระหว่างประเทศตามมาตรฐาน (ISO) ซึ่งใช้กันทั่วโลกเพื่อหลีกเลี่ยงความสับสนระหว่างสกุลเงินของประเทศต่างๆ และเพื่ออำนวยความสะดวกด้านการเทรดและด้านการเงินระหว่างประเทศ

สกุลเงินหลักและสกุลรองคืออะไร?

นอกจากนี้ คู่สกุลเงินแต่ละคู่ยังมีชื่อเรียกว่า สกุลเงินหลัก/สกุลเงินรอง หรือเรียกอีกอย่างว่าสกุลเงินอ้างอิง โดยทั่วไปคู่เงินฟอเร็กซ์สกุลเงินแรกคือสกุลเงินหลัก และสกุลเงินที่สองคือสกุลเงินรอง

ตัวอย่างเช่น คู่เงิน USD/EUR ในคู่สกุลเงินนี้:

  • สกุลเงินแรก (USD) เรียกว่าสกุลเงินหลัก

  • สกุลเงินที่สอง (EUR) เรียกว่าสกุลเงินรอง

ดังนั้นอัตราแลกเปลี่ยนจะแสดงถึงจำนวนเงินว่าคุณต้อใช้สกุลเงินอ้างอิงเท่าใดในการซื้อหนึ่งหน่วยของสกุลเงินหลัก

นอกจากนี้เมื่อคุณดูการเสนอราคาคู่สกุลเงินคุณจะพบกับ ราคาเสนอซื้อ (Bid Price) และ ราคาเสนอขาย (Ask Price)

ราคาเสนอซื้อ (Bid Price) หมายถึงจำนวนที่คุณสามารถขายสกุลเงินหลักได้ในขณะที่ราคาเสนอขาย (Ask Price) หมายถึงจำนวนที่คุณสามารถซื้อสกุลเงินหลักได้

ส่วนต่างระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายเรียกว่าสเปรด (Spread)

3 ประเภทหลักๆของคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ประเภทต่างๆ :  

  • คู่สกุลเงินหลัก (Majors)

  • คู่สกุลเงินรอง (Minors)

  • คู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotics)

สกุลเงินหลักคืออะไร?

คู่เงินซึ่งรวมถึงดอลลาร์สหรัฐ (USD) และถือเป็นหนึ่งในสกุลเงินที่สำคัญทั่วโลกซึ่งมักจะเรียกว่าสกุลเงินหลักเนื่องจากมีสภาพคล่องสูงและปริมาณการซื้อขายสูงในตลาดฟอเร็กซ์

สภาพคล่องหมายถึงความสะดวกและรวดเร็วในการซื้อ(Buy) และขาย(Sell) คู่สกุลเงินในตลาดโดยไม่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญในอัตราแลกเปลี่ยน ดังนั้นสภาพคล่องที่สูงหมายความว่ามีจำนวนผู้ซื้อและผู้ขายเป็นจำนวนมาก

คู่สกุลเงินหลักของฟอเร็กซ์ถือว่าเป็นคู่ที่มีการซื้อขายมากที่สุดและได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในโลกของการเทรดคู่สกุลเงิน

9 อันดับคู่สกุลเงินหลักของฟอเร็กซ์

คู่สกุลเงินหลักของฟอเร็กซ์มีทั้งหมด 9 คู่ ได้แก่:

  • EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)

  • GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • USD/CHF (ดอลลาร์สหรัฐ/ฟรังก์สวิส)

  • NZD/USD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • USD/CAD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดา)

  • USD/CNY (ดอลลาร์สหรัฐ/หยวนจีน)

  • USD/HKD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์ฮ่องกง)

ข้อดีของคู่สกุลเงินหลัก:

  • มีสภาพคล่องสูงส่งผลให้ค่าสเปรดต่ำลง

  • ดึงดูดนักเทรดเดอร์และนักลงทุนได้มากเนื่องจากสภาพคล่องและยังได้รับความนิยม 

  • โอกาสในการเข้าร่วมในตลาดที่ยอดเยี่ยม

นอกจากนี้คู่สกุลเงินหลักยังมักถูกพิจารณาว่ามีความผันผวนน้อยกว่าคู่สกุลเงินรองหรือคู่สกุลเงินแปลกใหม่ ทำให้เหมาะสำหรับการใช้กลยุทธ์ในด้านการเทรดได้หลากหลาย

สกุลเงินรองคืออะไร?

คู่สกุลเงินรองคือสกุลเงินที่ไม่เกี่ยวข้องกับสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ (USD) แต่ประกอบด้วยสกุลเงินหลักอื่น ๆ 

ถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับความนิยมในการซื้อขายเท่ากับคู่เงินหลักแต่คู่เงินรองยังคงมีบทบาทที่สำคัญใน ตลาดฟอเร็กซ์

5 อันดับคู่สกุลรองของฟอเร็กซ์

ด้านล่างนี้คือรายการคู่สกุลเงินรองในตลาดฟอเร็กซ์:

  • EUR/GBP (ยูโร/ปอนด์อังกฤษ)

  • EUR/AUD (ยูโร/ดอลลาร์ออสเตรเลีย)

  • GBP/JPY (ปอนด์อังกฤษ/เยนญี่ปุ่น)

  • EUR/CHF (ยูโร/ฟรังก์สวิส)

  • EUR/CAD (ยูโร/ดอลลาร์แคนาดา)

ข้อดีของคู่สกุลเงินรองในตลาดฟอเร็กซ์:

  • เสนอทางเลือกให้กับเทรดเดอร์ในการกระจายพอร์ตการลงทุนและเทรดสกุลเงินได้จากภูมิภาคเศรษฐกิจที่แตกต่างกัน

  • แสดงการเคลื่อนไหวของราคาและความผันผวนที่สำคัญทำให้เหมาะสำหรับ การเทรดที่ทำกำไร

สกุลเงินแปลกใหม่คืออะไร?

คู่สกุลเงินแปลกใหม่ (Exotic) ในฟอเร็กซ์คือคู่สกุลเงินที่ประกอบด้วยสกุลเงินหลักหนึ่งสกุลเงินและสกุลเงินจากเศรษฐกิจตลาดขนาดเล็กหรือตลาดเกิดใหม่ คู่สกุลเงินเหล่านี้มี สภาพคล่องที่น้อยกว่า และมีความผันผวนมากกว่า คู่สกุลเงินหลักและคู่สกุลเงินรอง 

คู่สกุลเงินแปลกใหม่มีลักษณะเฉพาะโดยการรวมสกุลเงินจากภูมิภาคที่มีเศรษฐกิจกำลังพัฒนาหรือประเทศที่มีตลาดการเงินที่ยังไม่มั่นคง

7 อันดับคู่สกุลแปลกใหม่ของฟอเร็กซ์

ตัวอย่างของคู่สกุลเงินแปลกใหม่มีดังนี้:

  • USD/TRY (ดอลลาร์สหรัฐ/ลีราตุรกี)

  • EUR/TRY (ยูโร/ลีราตุรกี)

  • USD/SEK (ดอลลาร์สหรัฐ/โครนาสวีเดน)

  • USD/NOK (ดอลลาร์สหรัฐ/โครนนอร์เวย์)

  • USD/DKK (ดอลลาร์สหรัฐ/โครนเดนมาร์ก)

  • USD/SGD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์สิงคโปร์)

  • USD/MXN (ดอลลาร์สหรัฐ/เปโซเม็กซิโก)

ข้อดีของคู่สกุลเงินแปลกใหม่ :

  • มีการซื้อขายน้อยกว่าคู่เงินหลักและคู่เงินรอง

  • ค่าสเปรดระหว่างราคาเสนอซื้อและราคาเสนอขายที่กว้างขึ้นส่งผลให้อาจมีค่าใช้จ่ายในการซื้อขายมากขึ้น

  • มีความอ่อนไหวต่อการเคลื่อนไหวของราคาและความผันผวนของตลาดมากขึ้น

เทรดเดอร์ที่สนใจคู่สกุลเงินแปลกใหม่มักจะทำเช่นนั้นเพื่อการกระจายพอร์ตการลงทุนเพื่อลดความเสี่ยงหรือหากพวกเขามีข้อมูลเชิงลึกเฉพาะเจาะจงเกี่ยวกับสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่เกี่ยวข้องอย่างไรก็ตาม การใช้ความระมัดระวังและทำความเข้าใจอย่างถี่ถ้วนถึงความเสี่ยงของการซื้อขายคู่สกุลเงินแปลกใหม่เป็นสิ่งสำคัญ

สกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์คืออะไร?

สกุลเงินของสินค้าโภคภัณฑ์เป็นสกุลเงินของประเทศที่ต้องพึ่งพาการส่งออกทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมากโดยเฉพาะ สินค้าโภคภัณฑ์ เช่น น้ำมัน โลหะ และสินค้าเกษตร

สกุลเงินเหล่านี้มักเคลื่อนไหวสัมพันธ์กับการเปลี่ยนแปลงของราคาสินค้าโภคภัณฑ์ เนื่องจากเศรษฐกิจของประเทศเหล่านี้พึ่งพาการส่งออกสินค้าโภคภัณฑ์

สามคู่สกุลเงินหลักในเจ็ดคู่สุดท้ายที่เป็นสกุลเงินสินค้าโภคภัณฑ์ ได้แก่:

  • NZD/USD (ดอลลาร์นิวซีแลนด์/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • AUD/USD (ดอลลาร์ออสเตรเลีย/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • USD/CAD (ดอลลาร์สหรัฐ/ดอลลาร์แคนาดา)

บทสรุป

การเทรดฟอเร็กซ์คือการแลกเปลี่ยนคู่สกุลเงินเพื่อทำกำไรจากการเปลี่ยนแปลงของมูลค่า คุณสามารถตัดสินใจซื้อขายได้อย่างชาญฉลาดยิ่งขึ้นโดยการทำความเข้าใจพื้นฐาน เช่น รู้จักชื่อแต่ละคู่สกุลเงิน และความแตกต่างระหว่างคู่สกุลเงินหลัก คู่สกุลเงินรอง และคู่สกุลเงินแปลกใหม่ 

การเข้าใจปัจจัยพื้นฐานเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญไม่ว่าคุณจะสนใจคู่สกุลเงินหลักที่มีสภาพคล่องสูงหรือคู่สกุลเงินแปลกใหม่ด้วยความรู้และกลยุทธ์ที่เหมาะสมคุณสามารถสำรวจตลาดฟอเร็กซ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นและบรรลุเป้าหมายการซื้อขายของคุณ

คำถามที่พบบ่อย

คู่ Forex ที่มีการซื้อขายมากที่สุดคืออะไร?

คู่ฟอเร็กซ์ที่มีการซื้อขายมากที่สุดคือคู่สกุลเงินหลัก [EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD, USD/CHF, NZD/USD, AUD/USD, USD/CAD] 

นอกจากนี้ EUR/USD ยังเป็นคู่ฟอเร็กซ์ที่มีการซื้อขายกันมากที่สุดทั่วโลก ส่วนใหญ่เป็นเพราะเป็นสกุลเงินของประเทศตะวันตกที่ใหญ่ที่สุดสองแห่งที่มีส่วนร่วมในการค้าขายระหว่างกัน

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในการเทรดมีอะไรบ้าง?

คู่ฟอเร็กซ์ที่ดีที่สุดในการเทรดขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ รวมถึงกลยุทธ์การซื้อขาย สภาพตลาด และความชอบส่วนบุคคล 

อย่างไรก็ตามตัวเลือกยอดนิยมในหมู่เทรดเดอร์ได้แก่คู่สกุลเงินหลัก เช่น EUR/USD, USD/JPY, GBP/USD และ USD/CHF เนื่องจากมีสภาพคล่องสูง ค่าสเปรดที่ต่ำ และโอกาสในการซื้อขายที่หลากหลาย

มีคู่สกุลเงินกี่คู่?

มีคู่สกุลเงินหลายคู่สำหรับการเทรดในตลาดฟอเร็กซ์ แต่จำนวนที่แน่นอนมักจะเปลี่ยนแปลงตามปัจจัยต่างๆ เช่น ความต้องการของตลาดและข้อเสนอของโบรกเกอร์ 

อย่างไรก็ตาม ตัวเลขที่อ้างถึงโดยทั่วไปคือประมาณ 180 คู่สกุลเงิน รวมถึงคู่สกุลเงินหลัก คู่สกุลเงินรอง และคู่สกุลเงินแปลกใหม่

Pip ในคู่สกุลเงินฟอเร็กซ์คืออะไร?

pip (ย่อมาจาก "percentage in point") คือการเคลื่อนไหวของราคาที่น้อยที่สุดในอัตราแลกเปลี่ยนสกุลเงินสามารถทำได้จากการซื้อขายฟอเร็กซ์ 

แสดงถึงทศนิยมตำแหน่งที่สี่ในคู่สกุลเงินส่วนใหญ่ ยกเว้นคู่ที่เกี่ยวข้องกับเงินเยนญี่ปุ่น (JPY) ซึ่งจะแสดงถึงทศนิยมตำแหน่งที่สอง 

Pips ใช้เพื่อวัดการเปลี่ยนแปลงมูลค่าของคู่สกุลเงินและกำหนดผลกำไรหรือขาดทุนในการซื้อขายฟอเร็กซ์ ตัวอย่างเช่น หากอัตราแลกเปลี่ยน EUR/USD ราคาเคลื่อนไหวจาก 1.2000 เป็น 1.2005 แสดงว่าราคาเคลื่อนไหวไป 5 pip

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ที่มีการเคลื่อนไหวของ pips ที่สูงมีคู่ใดบ้าง? 

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์ที่มีการเคลื่อนไหวของ pips ที่สูงขึ้นมักจะรวมถึงคู่ที่มีความผันผวนสูงและมีการเคลื่อนไหวของราคากว้างขึ้น

คู่เหล่านี้มักจะเกี่ยวข้องกับสกุลเงินจากประเทศที่มีอิทธิพลทางเศรษฐกิจและภูมิรัฐศาสตร์อย่างมีนัยสำคัญ ตัวอย่างของคู่ฟอเร็กซ์ที่มีค่า pip สูง ได้แก่:

  • EUR/USD (ยูโร/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • GBP/USD (ปอนด์อังกฤษ/ดอลลาร์สหรัฐ)

  • USD/JPY (ดอลลาร์สหรัฐ/เยนญี่ปุ่น)

คู่สกุลเงินฟอเร็กซ์เหล่านี้มีแนวโน้มที่จะมีการเคลื่อนไหวของ pip เฉลี่ยต่อวันมากกว่าคู่สกุลเงินอื่น ๆ ทำให้เป็นที่นิยมสำหรับเทรดเดอร์ที่ต้องการโอกาสในการทำกำไรมากขึ้น อย่างไรก็ตาม ความผันผวนที่สูงขึ้นยังนำมาซึ่งความเสี่ยงที่สูงขึ้นด้วย ดังนั้นเทรดเดอร์ควรนำกลยุทธ์การบริหารความเสี่ยงที่เหมาะสมเมื่อทำการซื้อขายคู่สกุลเงินเหล่านี้

แบ่งปันบล็อกนี้:

เพิ่มเติม

การเปลี่ยนแปลงค่าเฉลี่ย RSI - XS

ฟอเร็กซ์

28 มิถุนายน 2024

การเปลี่ยนแปลงค่าเฉลี่ย RSI : คู่มือสำหรับนักเทรดเพื่อวิเคราะห์แนวโน้มตลาด

การทำความเข้าใจเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงช่วงค่าเฉลี่ย RSI อาจเป็นตัวเปลี่ยนเกมในการปรับปรุงกลยุทธ์การเทรดของคุณได้ Relative Strength Index (RSI) คือโมเมนตัมออสซิลเลเตอร์ที่วัดความเร็วและการเปลี่ยนแปลงของการเคลื่อนไหวของราคาในระดับ 0 ถึง 100 ซึ่งช่วยให้เทรดเดอร์ทราบว่าตลาดนั้นมีการซื้อมากเกินไปหรือขายมากเกินไป โดยให้เบาะแสเกี่ยวกับการกลับตัวของราคาที่เป็นไปได้ ดังนั้น ด้วยการเรียนรู้การเปลี่ยนแปลงช่วงค่าเฉลี่ย RSI เป็นอย่างดีคุณจะได้รับข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับแนวโน้มของตลาด ระบุโอกาสในการทำกำไร และตัดสินใจซื้อขายโดยมีข้อมูลมากขึ้น! สาระสำคัญ การเปลี่ยนช่วงค่าเฉลี่ย...

เทรดฟอเร็กซ์ (Forex CFD)  : เรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดสกุลเงิน

ฟอเร็กซ์

16 กุมภาพันธ์ 2567

เทรดฟอเร็กซ์ (Forex CFD) : เรียนรู้เกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดสกุลเงิน

ในโลกของการเทรดการลงทุนฟอเร็กซ์ (Forex CFD) ได้รับความนิยมอย่างมากในหมู่นักลงทุน ฟอเร็กซ์(Forex CFD) ช่วยให้เทรดเดอร์สามารถเก็งกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคาของคู่สกุลเงินที่แตกต่างกันโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสกุลเงินนั้น ๆ  ฟอเร็กซ์คืออะไร? ฟอเร็กซ์ (CFD Forex)  ช่วยให้เทรดเดอร์ได้กำไรจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยนโดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสกุลเงินนั้นจริง ๆ เมื่อคุณเทรดฟอเร็กซ์ (CFD Forex) คุณจะต้องทำข้อตกลงกับโบรกเกอร์เพื่อแลกเปลี่ยนส่วนต่างของราคาของคู่สกุลเงินตั้งแต่เวลาที่คุณเปิดการซื้อขายจนถึงเวลาที่คุณปิด องค์ประกอบของฟอเร็กซ์ CFD...