ตลาด
บัญชี
แพลตฟอร์ม
นักลงทุน
โปรแกรมพันธมิตร
สถาบัน
โปรแกรมความภักดี
เครื่องมือ
เขียนโดย XS Editorial Team
อัปเดตแล้ว 7 มีนาคม 2025
Short Squeeze คือการพุ่งสูงขึ้นของราคาหุ้นอย่างฉับพลันในหุ้นที่ถูกขายชอร์ตอย่างหนักส่งผลให้นักลงทุนที่เปิดสถานะชอร์ตต้องซื้อคืนหุ้นในราคาที่สูงขึ้นเพื่อปิดสถานะซึ่งยิ่งกระตุ้นให้ราคาปรับตัวขึ้นไปอีกปรากฏการณ์นี้มักทำให้เกิด ความผันผวนรุนแรง โดยราคาหุ้นสามารถทะยานขึ้นในช่วงเวลาสั้นๆ
ดังนั้น Short Squeeze เกิดขึ้นได้อย่างไรและอะไรเป็นปัจจัยที่กระตุ้น? บทความนี้จะอธิบายกลไกของ Short Squeeze วิธีระบุหุ้นที่มีโอกาสเกิดและกลยุทธ์ในการทำกำไรหรือป้องกันความเสี่ยงจากสถานการณ์ดังกล่าว
Short Squeeze เกิดขึ้นเมื่อผู้ขายชอร์ตถูกบังคับให้ซื้อหุ้นคืนในขณะที่ราคาปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรุนแรง ซึ่งมักทำให้เกิดความผันผวนสูงและอาจนำไปสู่กำไรมหาศาลหรือขาดทุนหนัก
ปัจจัยหลักที่กระตุ้นให้เกิด Short Squeeze ได้แก่ อัตราการขายชอร์ตสูง ข่าวเชิงบวก และกระแสการเก็งกำไรจากนักลงทุนรายย่อย
แม้ว่า Short Squeeze จะเป็นโอกาสในการทำกำไรที่สูงแต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกันและมักนำไปสู่การปรับฐานของราคาอย่างรุนแรง
ลงทะเบียนบัญชีเดโม่ฟรีและปรับกลยุทธ์การเทรดของคุณ
เพื่อให้เข้าใจ Short Squeeze ได้ดีขึ้นจำเป็นต้องรู้ก่อนว่าการขายชอร์ต (Short Selling) ทำงานอย่างไร
การขายชอร์ตคือการที่นักเทรดเดิมพันว่าราคาหุ้นจะลดลงแทนที่จะเพิ่มขึ้นพวกเขาจะยืมหุ้นจากโบรกเกอร์ขายออกไปที่ราคาปัจจุบัน และตั้งใจจะซื้อคืนในภายหลังที่ราคาต่ำกว่าเพื่อทำกำไรจากส่วนต่างของราคา
ตัวอย่างเช่น หากนักเทรดขายชอร์ตหุ้นที่ราคา $50 ต่อหุ้น และราคาลดลงมาเหลือ $30 พวกเขาสามารถซื้อคืนหุ้นที่ราคาต่ำกว่าและทำกำไร $20 ต่อหุ้น อย่างไรก็ตามหากราคาหุ้นปรับตัวขึ้นแทนนักเทรดอาจขาดทุนได้ไม่จำกัดเพราะราคาหุ้นสามารถพุ่งขึ้นไปได้โดยไม่มีเพดานสูงสุด
Short Squeeze คือปรากฏการณ์ในตลาดที่ราคาหุ้นที่ถูกขายชอร์ตอย่างหนักพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว บีบบังคับให้นักลงทุนที่เปิดสถานะชอร์ตต้องซื้อหุ้นคืนเพื่อลดการขาดทุน ซึ่งแรงซื้อที่เกิดขึ้นนี้ทำให้ราคาพุ่งขึ้นต่อเนื่องเกิดเป็นวงจรเร่งตัวของราคาและทำให้การบีบชอร์ตยิ่งรุนแรงขึ้น
Short Squeeze มักเกิดขึ้นเมื่อหุ้นมีอัตราการขายชอร์ตสูง (High Short Interest) ซึ่งหมายความว่าหุ้นจำนวนมากถูกยืมไปขายชอร์ต หากมีข่าวดีที่ไม่คาดคิด หรือ ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วนักลงทุนที่ถือสถานะชอร์ตต้องรีบปิดออเดอร์ทำให้เกิดแรงซื้อเพิ่มเติมและหนุนให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นต่อไป
1️. นักเทรดขายชอร์ตหุ้น โดยคาดว่าราคาจะลดลง 2️. ราคาหุ้นปรับตัวสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิด เนื่องจากข่าวดีผลประกอบการที่แข็งแกร่งหรือแรงซื้อที่เพิ่มขึ้น 3️. นักลงทุนที่ขายชอร์ตเริ่มตื่นตระหนก เมื่อขาดทุนมากขึ้นและรีบซื้อหุ้นคืนเพื่อปิดสถานะ 4️. แรงซื้อที่เพิ่มขึ้นทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีกกดดันให้นักลงทุนที่ขายชอร์ตต้องปิดสถานะมากขึ้น 5️.วงจรนี้ดำเนินต่อไปจนกว่าแรงซื้อจะเริ่มลดลงหรือมีสถานะขายชอร์ตใหม่เข้ามาทำให้ราคากลับมาทรงตัว
มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิด Short Squeeze ได้แก่:
1️. อัตราการขายชอร์ตสูง (High Short Interest)
เมื่อมีนักเทรดจำนวนมากเปิดสถานะขายชอร์ตในหุ้นตัวเดียวกันความเสี่ยงของการเกิด Short Squeeze จะเพิ่มขึ้น โดยทั่วไปหากอัตราการขายชอร์ตสูงกว่า 20% จะถือว่าอยู่ในระดับที่มีความเสี่ยงสูง
2️. ข่าวดีที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน (Sudden Positive News)
ข่าวเชิงบวก เช่น ผลประกอบการที่แข็งแกร่ง การประกาศความร่วมมือทางธุรกิจใหม่ หรือ การอนุมัติกฎระเบียบสำคัญสามารถกระตุ้นแรงซื้อในตลาดและนำไปสู่การเกิด Short Squeeze ได้
3️. กระแสเก็งกำไรจากนักลงทุนรายย่อย (Retail Trading Frenzy)
นักลงทุนรายย่อยบนแพลตฟอร์ม เช่น WallStreetBets ของ Reddit สามารถประสานการซื้อหุ้นร่วมกัน ทำให้ความต้องการซื้อเพิ่มขึ้นและกดดันให้ผู้ขายชอร์ตต้องปิดสถานะ
4️. หุ้นที่มีจำนวนหุ้นหมุนเวียนต่ำ (Low Float Stocks)
หุ้นที่มีปริมาณหุ้นหมุนเวียนในตลาดต่ำทำให้ความต้องการซื้อสามารถแซงหน้าปริมาณเสนอขายได้อย่างรวดเร็วส่งผลให้ราคาผันผวนอย่างรุนแรง
นี่คือการแบ่งขั้นตอนสำคัญของ Short Squeeze:
1️. ช่วงการซื้อขายปกติ (Normal Trading Zone)
นี่คือระยะเริ่มต้นที่ราคาหุ้นยังเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบปกติโดยไม่มีความผันผวนที่รุนแรง
นักลงทุนที่ขายชอร์ตยังคงถือสถานะได้อย่างสบายใจเพราะคาดว่าราคาหุ้นจะปรับตัวลดลงตามแผนที่วางไว้
2️. ช่วงเกิด Short Squeeze Breakout
การทะลุแนวเกิดขึ้นเมื่อลราคาหุ้นเริ่มปรับตัวสูงขึ้นอย่างไม่คาดคิดทำให้นักลงทุนที่ขายชอร์ตตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ทันตั้งตัว
สาเหตุของการทะลุแนวอาจมาจากข่าวเชิงบวก อุปสงค์ที่เพิ่มขึ้น หรือแรงซื้อที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
3️. Margin Call – การปิดสถานะและการเร่งตัวของราคาขึ้นแบบพาราโบลิก
เมื่อราคายังคงเพิ่มขึ้นโบรกเกอร์จะออก Margin Call ให้นักลงทุนที่ขายชอร์ตบังคับให้พวกเขาซื้อหุ้นคืนเพื่อป้องกันการขาดทุนที่เพิ่มขึ้น
การซื้อคืนที่ถูกบังคับนี้ช่วยกระตุ้นความต้องการซื้อเพิ่มเติมส่งผลให้ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วในลักษณะพาราโบลิก
ในช่วงนี้นักเทรดโมเมนตั้มและนักลงทุนรายย่อยอาจเข้ามามีส่วนร่วมซึ่งช่วยผลักดันราคาหุ้นให้สูงขึ้นไปอีก
4️. Short Squeeze Zone
หุ้นเข้าสู่ช่วงที่มีความผันผวนสูงสุดโดยที่ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว
นักลงทุนที่ขายชอร์ตจำนวนมากถูกบังคับให้ปิดสถานะทำให้เกิดวงจรเร่งตัวของการเพิ่มขึ้นของราคาอย่างต่อเนื่อง
ช่วงนี้มักจะมาพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มสูงขึ้น ความสนใจจากสื่อและกิจกรรมการเก็งกำไรที่ร้อนแรง
5️. Short Squeeze Top
ช่วงสูงสุดของ Short Squeeze เกิดขึ้นเมื่อแรงซื้อเริ่มอ่อนตัวลง
นักเทรดเดอร์ที่เข้าซื้อในช่วงท้ายอาจติดดอยเมื่อราคาหุ้นเริ่ ปรับฐานลงอย่างรวดเร็ว
หลังจาก Short Squeeze จบลงหุ้นมักจะเผชิญกับการปรับตัวลดลงอย่างมีนัยสำคัญ และกลับเข้าสู่ระดับราคาที่ใกล้เคียงกับมูลค่าพื้นฐาน
หนึ่งใน Short Squeeze ที่โด่งดังที่สุดในประวัติศาสตร์เกิดขึ้นในปี 2021 กับหุ้น GameStop (GME)หุ้น GME มี อัตราการขายชอร์ตที่สูงมาก และเมื่อนักลงทุนรายย่อยจาก WallStreetBets บน Reddit เริ่มเข้าซื้อหุ้นอย่างหนักราคาพุ่งขึ้นมากกว่า 1,000% ภายในไม่กี่วันนักลงทุนที่ขายชอร์ตรวมถึงกองทุนเฮดจ์ฟันด์ขนาดใหญ่ต้องเผชิญกับการขาดทุนมหาศาลนับพันล้านดอลลาร์เนื่องจากถูกบังคับให้ซื้อคืนหุ้นในราคาที่พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว
คุณสมบัติ
Short Selling (การขายชอร์ต)
Short Squeeze (การบีบชอร์ต)
ความหมาย
ขายหุ้นที่ยืมมาเพื่อทำกำไรจากราคาที่ลดลง
ราคาพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วบีบให้ผู้ขายชอร์ตต้องซื้อคืนหุ้น
เป้าหมายของนักเทรด
ทำกำไรจากราคาหุ้นที่ลดลง
หลีกเลี่ยงการถูกบังคับซื้อคืนหุ้นเนื่องจากราคาพุ่งสูงขึ้น
ระดับความเสี่ยง
สูง (อาจขาดทุนไม่จำกัด)
สูง (มีความผันผวนรุนแรง)
สาเหตุ
ผลประกอบการอ่อนแอ ข่าวลบ ภาวะเศรษฐกิจถดถอย
อัตราการขายชอร์ตสูง ปัจจัยด้านบวก การเก็งกำไรจากนักลงทุนรายย่อย
ตัวอย่าง
กองทุนเฮดจ์ฟันด์ที่เดิมพันกับหุ้นที่อ่อนแอ
GameStop (GME), AMC, Volkswagen (2008)
หากต้องการค้นหาหุ้นที่มีโอกาสเกิด Short Squeeze ให้พิจารณาปัจจัยต่อไปนี้:
อัตราการขายชอร์ตสูง: หาก Short Interest Ratio (Days to Cover) สูงกว่า 5-10 วัน อาจเป็นสัญญาณว่ามีโอกาสเกิด Short Squeeze
ปริมาณการซื้อขายที่พุ่งขึ้นผิดปกติ: หากมีการเพิ่มขึ้นของปริมาณการซื้อขาย อาจหมายถึงอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นและความเป็นไปได้ของการบีบชอร์ต
การเคลื่อนไหวของราคาที่แข็งแกร่ง: หากหุ้นที่ถูกขายชอร์ตอย่างหนักสามารถทะลุแนวต้านสำคัญได้อาจบังคับให้นักลงทุนที่ขายชอร์ตต้องปิดสถานะและทำให้ราคาพุ่งขึ้นเร็วขึ้น
กระแสในโซเชียลมีเดียและนักลงทุนรายย่อย: หากมีการพูดถึงหุ้นอย่างมากบน Reddit Twitter หรือฟอรั่มการเงินอาจเป็นตัวเร่งให้หุ้นเข้าสู่ภาวะ Short Squeeze ได้
Short Squeeze ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็วและรุนแรง โดยมูลค่าหุ้นอาจเพิ่มขึ้นเป็น 2-3 เท่าภายในไม่กี่วันเมื่อผู้ขายชอร์ตรีบซื้อคืนหุ้นอุปสงค์ที่เพิ่มขึ้นจะผลักดันให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก ซึ่งดึงดูด นักเทรดโมเมนตัมและนักลงทุนรายย่อยเข้ามาเพิ่มแรงซื้อส่งผลให้การ squeeze แรงขึ้น
อย่างไรก็ตามการพุ่งขึ้นของราคามักไม่ยั่งยืน เมื่อแรงซื้อเริ่มลดลงราคาหุ้นมักจะร่วงลงอย่างรวดเร็ว ทำให้นักลงทุนที่เข้ามาซื้อในช่วงท้ายต้องเผชิญกับการขาดทุนหนัก Short Squeeze ยังสร้างความผันผวนสูงในตลาดทำให้การซื้อขายเป็นไปอย่างคาดเดาไม่ได้
นอกจากนี้นักลงทุนสถาบันโดยเฉพาะกองทุนเฮดจ์ฟันด์ อาจได้รับความเสียหายมหาศาลและอาจส่งผลกระทบในวงกว้างต่อตลาดในช่วงที่เกิด Short Squeeze ราคาหุ้นมักหลุดออกจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทโดยเคลื่อนไหวจากอุปสงค์ที่ถูกกระตุ้นมากกว่าจากผลประกอบการจริง
แม้ว่าจะเป็นโอกาสทำกำไรสำหรับนักลงทุนที่เข้าซื้อเร็วแต่ Short Squeeze เป็นกลยุทธ์ที่มีความเสี่ยงสูง และมักจบลงด้วยการปรับตัวลงอย่างรุนแรงของราคา
หากต้องการทำกำไรจาก Short Squeeze หรือหลีกเลี่ยงความเสี่ยงควรพิจารณากลยุทธ์ต่อไปนี้:
Momentum Trading: เข้าซื้อเมื่อปริมาณการซื้อขายและราคาของหุ้นเริ่มพุ่งสูงขึ้นเพื่อใช้ประโยชน์จากโมเมนตั้มของตลาด
Call Options: สัญญาออปชั่นช่วยให้คุณสามารถทำกำไรจากการเพิ่มขึ้นของราคาโดยมีความเสี่ยงจำกัด
Technical Breakouts: มองหาการพุ่งขึ้นของราคาที่ทะลุระดับแนวต้านเพื่อยืนยันการเกิด Short Squeeze
Monitor Short Interest: หลีกเลี่ยงหุ้นที่มีอัตราการขายชอร์ตสูงและกำลังมีโมเมนตั้มขาขึ้น
Use Stop-Losses: ตั้งคำสั่ง stop-loss เพื่อออกจากสถานะอัตโนมัติหากราคาหุ้นเคลื่อนที่สวนทางกับการคาดการณ์
Hedging with Call Options: ซื้อ call options เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากการขาดทุนในสถานะขายชอร์ต
โซเชียลมีเดียกลายเป็นแรงผลักดันสำคัญที่กระตุ้นให้เกิด Short Squeeze โดยแพลตฟอร์มอย่าง Reddit Twitter YouTube และ Discord ช่วยขยายอิทธิพลของนักลงทุนรายย่อยชุมชนออนไลน์สามารถเผยแพร่แนวคิดการเทรดได้อย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เกิดการเข้าซื้อหุ้นพร้อมกันเป็นจำนวนมากซึ่งอาจเป็นตัวกระตุ้นให้เกิด Short Squeeze ในตลาด
การประสานงานของนักลงทุนรายย่อย: กลุ่มอย่าง WallStreetBets บน Reddit มีบทบาทสำคัญในการกระตุ้น Short Squeeze ของหุ้น GameStop (GME) และ AMC โดยรวบรวมนักเทรดจำนวนมากให้เข้าซื้อหุ้นและ Call Options พร้อมกัน
FOMO (Fear of Missing Out): โพสต์ที่เป็นกระแสสามารถสร้างแรงกระตุ้นให้เกิดความกลัวที่จะพลาดโอกาสดึงดูดนักลงทุนจำนวนมากและเพิ่มอุปสงค์ให้กับหุ้น
ข่าวสารแพร่กระจายอย่างรวดเร็ว: การเคลื่อนไหวของราคาหุ้นและข้อมูลอัตราการขายชอร์ตถูกเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียทันทีส่งผลต่อความเชื่อมั่นของตลาด
อิทธิพลจากบุคคลที่มีชื่อเสียง: ทวีตจากบุคคลสำคัญ เช่น Elon Musk เคยทำให้หุ้นบางตัวเข้าสู่ภาวะ Short Squeeze
แม้ว่าโซเชียลมีเดียสามารถผลักดันให้ราคาหุ้นพุ่งสูงขึ้นอย่างมากแต่ก็เพิ่มความผันผวนและความเสี่ยง เนื่องจากแรงซื้อที่เกิดจากโมเมนตั้มมักจบลงด้วยการร่วงลงอย่างรวดเร็ว
แม้ว่า Short Squeeze อาจสร้างผลกำไรจำนวนมากให้กับนักเทรดบางคนแต่ก็มีความเสี่ยงสูงเช่นกัน
● ความผันผวนรุนแรง: ราคาสามารถร่วงลงได้เร็วพอๆ กับที่พุ่งขึ้น
● การขาดทุนของผู้ขายชอร์ต: การขาดทุนอาจไม่จำกัด เนื่องจากราคาหุ้นไม่มีเพดานสูงสุด
● นักลงทุนรายย่อยขาดทุน: หลายคนอาจเข้าซื้อในช่วงราคาสูงสุดและเผชิญกับการขาดทุนหนักเมื่อตลาดกลับตัว
● ความเสี่ยงจากการปั่นหุ้น: บางกรณีของ Short Squeeze อาจเกี่ยวข้องกับแผนปั่นหุ้นและเทขาย (Pump-and-Dump Schemes)
Short Squeeze เป็นปรากฏการณ์ในตลาดที่ผู้ขายชอร์ตถูกบังคับให้ซื้อหุ้นคืนเมื่อราคาพุ่งสูงขึ้น ซึ่งมักได้รับแรงหนุนจากอัตราการขายชอร์ตสูงปัจจัยด้านบวกและแรงซื้อจากนักลงทุนรายย่อยแม้ว่า Short Squeeze จะสร้างโอกาสในการทำกำไรมหาศาลแต่ก็มาพร้อมกับความเสี่ยงสูงและความผันผวนรุนแรง ที่นักเทรดเดอร์ต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ
เปิดบัญชีและเริ่มต้นเลย
ตัวอย่างที่โด่งดังคือ GameStop (GME) ในปี 2021 ซึ่งนักลงทุนรายย่อยช่วยผลักดันราคาหุ้นจากต่ำกว่า $20 ไปสูงกว่า $400 ส่งผลให้กองทุนเฮดจ์ฟันด์ต้องปิดสถานะชอร์ตที่ขาดทุนมหาศาล
ไม่ผิดกฎหมายหากเกิดขึ้นตามกลไกของตลาดตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามหากมีการร่วมมือกันเพื่อจงใจปั่นราคาอาจเข้าข่ายการกระทำที่หน่วยงานกำกับดูแลตรวจสอบได้
หมายถึงนักลงทุนที่ขายชอร์ตถูกบังคับให้ซื้อคืนหุ้นในราคาที่สูงขึ้นเพื่อจำกัดการขาดทุนซึ่งยิ่งทำให้ราคาพุ่งสูงขึ้นไปอีก
ใช่มีหลายกรณีที่ Short Squeeze ทำให้ราคาหุ้นพุ่งขึ้นอย่างมหาศาล และนักเทรดเดอร์สามารถทำกำไรจากการปรับตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ตัวอย่าง ได้แก่ Volkswagen ในปี 2008 และ Tesla ที่เกิด Short Squeeze หลายครั้งตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา
เนื้อหาในเอกสารหรือภาพนี้ประกอบด้วยความคิดเห็นและแนวคิดส่วนบุคคล ซึ่งอาจไม่สอดคล้องกับความคิดเห็นของบริษัท ข้อมูลในที่นี้ไม่ควรตีความว่าเป็นคำแนะนำด้านการลงทุนใดๆ และ/หรือการชักชวนให้ทำธุรกรรมใดๆ ไม่มีการแสดงถึงข้อผูกพันในการซื้อบริการการลงทุน และไม่รับประกันหรือคาดการณ์ผลการดำเนินงานในอนาคต บริษัท XS บริษัทในเครือ ตัวแทน กรรมการ เจ้าหน้าที่ หรือพนักงาน ไม่รับประกันห้วงเวลา ความสมบูรณ์หรือความถูกต้องของข้อมูลหรือข้อมูลใดๆที่มีให้ และไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสียใดๆที่เกิดจากการลงทุนตามข้อมูลดังกล่าวแพลตฟอร์มของเราอาจไม่มีผลิตภัณฑ์หรือบริการทั้งหมดที่กล่าวถึง